อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว
ประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว
อุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 3 แห่ง คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดปัตตานี ในเขตอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดยะลา ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอยะหา จังหวัดยะลา และอุทยานแห่งชาติเขาสันกาลาคีรี ในเขตอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีเนื้อที่จากการสำรวจครั้งแรกประมาณ 110 ตารางกิโลเมตร หรือ 68,756 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเตรียมการประกาศจัดตั้งโดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและเลขาธิการรัฐมนตรีแจ้งให้พิมพ์แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541
ได้มีกลุ่มราษฎรในท้องที่ตำบล ลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ชุมนุมคัดค้านการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว เนื่องจากพื้นที่เตรียมการดั้งกล่าวบางส่วนทับซ้อนพื้นที่ทำกินของราษฎรและได้ทำการสำรวจรังวัดแนวเขตปรับปรุงใหม่โดยส่วนวิศวกรรมป่าไม้ กรมป่าไม้แล้ว ขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวได้จัดส่งให้สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนมกราคม 2546 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว
อุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 3 แห่ง คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดปัตตานี ในเขตอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดยะลา ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอยะหา จังหวัดยะลา และอุทยานแห่งชาติเขาสันกาลาคีรี ในเขตอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีเนื้อที่จากการสำรวจครั้งแรกประมาณ 110 ตารางกิโลเมตร หรือ 68,756 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเตรียมการประกาศจัดตั้งโดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและเลขาธิการรัฐมนตรีแจ้งให้พิมพ์แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541
ได้มีกลุ่มราษฎรในท้องที่ตำบล ลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ชุมนุมคัดค้านการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว เนื่องจากพื้นที่เตรียมการดั้งกล่าวบางส่วนทับซ้อนพื้นที่ทำกินของราษฎรและได้ทำการสำรวจรังวัดแนวเขตปรับปรุงใหม่โดยส่วนวิศวกรรมป่าไม้ กรมป่าไม้แล้ว ขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวได้จัดส่งให้สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนมกราคม 2546 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว
มีเนื้อที่ 68,750 ไร่ หรือ 110 ตารางกิโลเมตร คลอบคลุม 3 จังหวัด
ทิศเหนือ จรด ตำบลป่าบอน,ตำบลทรายขาว และตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศใต้ จรด ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันออก จรด ตำบลทุ่งพลา,ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลลำพะเยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันตก จรด ตำบลบ้านโหนด, ตำบลเปียน, ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา, ตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศเหนือ จรด ตำบลป่าบอน,ตำบลทรายขาว และตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศใต้ จรด ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันออก จรด ตำบลทุ่งพลา,ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลลำพะเยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันตก จรด ตำบลบ้านโหนด, ตำบลเปียน, ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา, ตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว เนื้อที่ทั้งหมดอยู่บริเวณเทือกเขาสันกาลาคีรี เขตติอต่อกันเป็นยอกเขานางจันทร์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด พื้นที่จะเป็นพื้นที่เนินเขา เป็นดินปนทราย เป็นต้นกำเนิดของห้วยหลายห้วยด้วยกัน เช่น วยทรายขาว ห้วยโผงโผง ห้วยบอน ห้วยแกแดะ ห้วยลำหยัง ห้วยคลองเรือ ห้วยต้นตะเคียน ห้วยลำชิง ห้วยลำพะยา ฯลฯ ซึ่งลำห้วยลำธารเหล่านี้จะไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำเทพา เราเดินเข้าไปในอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จะสดชื่นมาก เพราะสภาพพืนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไปนานาชนิด ลักษณะเป็นป่าดิบชื่น ที่เข้าไปแล้วเราจะเห็น ก็มีพวก ยาง สยา กระบาก กาลอ ไข่เขียว แน่ ๆ ไม่รุ้จักกันละซิ เราก็ไม่ค่อยรุ้จักเหมือนกัน ดีนะ พี่ๆ เขารุ้กัน ที่ขาดไม่ได้เลยในป่าก็คือ เถาวัลย์นี้เอง อากาศสดชื่นมาก
ไปที่นี้รับรองได้รับโอโซน ไปเต็มๆ สูดอากาศได้เต็มปอด ไม่เหมือนในเมือง สัตว์ป่าที่เราสามารถพบและมองเห็นได้ ก็มีพวก หมูป่า เก้ง กระจง ลิง ชะนี อีเห็น นกขุนทอง อันนี้ไม่เคยเห็น เห็นที่นี้แหละ มีกุ้ง ปูตัวเล็ก ปลาเล็ปลาน้อยอาศัยอยุ่ เพราะมีลำธารอยุ่ น้ำใสและเย็นมาก ถ้าใครไปแล้วกลัวไม่มีที่นอนเพราะเห็นเป็นป่าเขา ไม่ต้องกลัวที่นี้มีที่พักมีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ทั้งหมด 20 คน มีค่ายพักแรมไว้คอยบริการ 1 แห่ง สามารถพักได้ทั้งหมด 50 คน สถานที่กางเต้นท์ให้ 1 แห่ง สามารถพักได้ 100 คน เป็นไงละ ร้านอาหารก็มีเยอะ อร่อย ๆ ทั้งนั้น ไปแล้วเชื่อได้ว่าคุณจะต้องกับไปอีกแน่นอน
ไปที่นี้รับรองได้รับโอโซน ไปเต็มๆ สูดอากาศได้เต็มปอด ไม่เหมือนในเมือง สัตว์ป่าที่เราสามารถพบและมองเห็นได้ ก็มีพวก หมูป่า เก้ง กระจง ลิง ชะนี อีเห็น นกขุนทอง อันนี้ไม่เคยเห็น เห็นที่นี้แหละ มีกุ้ง ปูตัวเล็ก ปลาเล็ปลาน้อยอาศัยอยุ่ เพราะมีลำธารอยุ่ น้ำใสและเย็นมาก ถ้าใครไปแล้วกลัวไม่มีที่นอนเพราะเห็นเป็นป่าเขา ไม่ต้องกลัวที่นี้มีที่พักมีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ทั้งหมด 20 คน มีค่ายพักแรมไว้คอยบริการ 1 แห่ง สามารถพักได้ทั้งหมด 50 คน สถานที่กางเต้นท์ให้ 1 แห่ง สามารถพักได้ 100 คน เป็นไงละ ร้านอาหารก็มีเยอะ อร่อย ๆ ทั้งนั้น ไปแล้วเชื่อได้ว่าคุณจะต้องกับไปอีกแน่นอน

ประวัติความเป็นมาของอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว
อุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 3 แห่ง คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดปัตตานี ในเขตอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดยะลา ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอยะหา จังหวัดยะลา และอุทยานแห่งชาติเขาสันกาลาคีรี ในเขตอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีเนื้อที่จากการสำรวจครั้งแรกประมาณ 110 ตารางกิโลเมตร หรือ 68,756 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเตรียมการประกาศจัดตั้งโดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและเลขาธิการรัฐมนตรีแจ้งให้พิมพ์แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541
ได้มีกลุ่มราษฎรในท้องที่ตำบล ลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ชุมนุมคัดค้านการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว เนื่องจากพื้นที่เตรียมการดั้งกล่าวบางส่วนทับซ้อนพื้นที่ทำกินของราษฎรและได้ทำการสำรวจรังวัดแนวเขตปรับปรุงใหม่โดยส่วนวิศวกรรมป่าไม้ กรมป่าไม้แล้ว ขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวได้จัดส่งให้สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนมกราคม 2546 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว
อุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 3 แห่ง คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดปัตตานี ในเขตอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดยะลา ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอยะหา จังหวัดยะลา และอุทยานแห่งชาติเขาสันกาลาคีรี ในเขตอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีเนื้อที่จากการสำรวจครั้งแรกประมาณ 110 ตารางกิโลเมตร หรือ 68,756 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเตรียมการประกาศจัดตั้งโดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและเลขาธิการรัฐมนตรีแจ้งให้พิมพ์แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541
ได้มีกลุ่มราษฎรในท้องที่ตำบล ลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ชุมนุมคัดค้านการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว เนื่องจากพื้นที่เตรียมการดั้งกล่าวบางส่วนทับซ้อนพื้นที่ทำกินของราษฎรและได้ทำการสำรวจรังวัดแนวเขตปรับปรุงใหม่โดยส่วนวิศวกรรมป่าไม้ กรมป่าไม้แล้ว ขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวได้จัดส่งให้สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนมกราคม 2546 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้ว
มีเนื้อที่ 68,750 ไร่ หรือ 110 ตารางกิโลเมตร คลอบคลุม 3 จังหวัด
ทิศเหนือ จรด ตำบลป่าบอน,ตำบลทรายขาว และตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศใต้ จรด ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันออก จรด ตำบลทุ่งพลา,ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลลำพะเยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันตก จรด ตำบลบ้านโหนด, ตำบลเปียน, ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา, ตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศเหนือ จรด ตำบลป่าบอน,ตำบลทรายขาว และตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี
ทิศใต้ จรด ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันออก จรด ตำบลทุ่งพลา,ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลลำพะเยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา
ทิศตะวันตก จรด ตำบลบ้านโหนด, ตำบลเปียน, ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา, ตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี

อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว เนื้อที่ทั้งหมดอยู่บริเวณเทือกเขาสันกาลาคีรี เขตติอต่อกันเป็นยอกเขานางจันทร์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุด พื้นที่จะเป็นพื้นที่เนินเขา เป็นดินปนทราย เป็นต้นกำเนิดของห้วยหลายห้วยด้วยกัน เช่น วยทรายขาว ห้วยโผงโผง ห้วยบอน ห้วยแกแดะ ห้วยลำหยัง ห้วยคลองเรือ ห้วยต้นตะเคียน ห้วยลำชิง ห้วยลำพะยา ฯลฯ ซึ่งลำห้วยลำธารเหล่านี้จะไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำเทพา เราเดินเข้าไปในอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จะสดชื่นมาก เพราะสภาพพืนที่ปกคลุมไปด้วยต้นไปนานาชนิด ลักษณะเป็นป่าดิบชื่น ที่เข้าไปแล้วเราจะเห็น ก็มีพวก ยาง สยา กระบาก กาลอ ไข่เขียว แน่ ๆ ไม่รุ้จักกันละซิ เราก็ไม่ค่อยรุ้จักเหมือนกัน ดีนะ พี่ๆ เขารุ้กัน ที่ขาดไม่ได้เลยในป่าก็คือ เถาวัลย์นี้เอง อากาศสดชื่นมาก
ไปที่นี้รับรองได้รับโอโซน ไปเต็มๆ สูดอากาศได้เต็มปอด ไม่เหมือนในเมือง สัตว์ป่าที่เราสามารถพบและมองเห็นได้ ก็มีพวก หมูป่า เก้ง กระจง ลิง ชะนี อีเห็น นกขุนทอง อันนี้ไม่เคยเห็น เห็นที่นี้แหละ มีกุ้ง ปูตัวเล็ก ปลาเล็ปลาน้อยอาศัยอยุ่ เพราะมีลำธารอยุ่ น้ำใสและเย็นมาก ถ้าใครไปแล้วกลัวไม่มีที่นอนเพราะเห็นเป็นป่าเขา ไม่ต้องกลัวที่นี้มีที่พักมีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ทั้งหมด 20 คน มีค่ายพักแรมไว้คอยบริการ 1 แห่ง สามารถพักได้ทั้งหมด 50 คน สถานที่กางเต้นท์ให้ 1 แห่ง สามารถพักได้ 100 คน เป็นไงละ ร้านอาหารก็มีเยอะ อร่อย ๆ ทั้งนั้น ไปแล้วเชื่อได้ว่าคุณจะต้องกับไปอีกแน่นอน
ไปที่นี้รับรองได้รับโอโซน ไปเต็มๆ สูดอากาศได้เต็มปอด ไม่เหมือนในเมือง สัตว์ป่าที่เราสามารถพบและมองเห็นได้ ก็มีพวก หมูป่า เก้ง กระจง ลิง ชะนี อีเห็น นกขุนทอง อันนี้ไม่เคยเห็น เห็นที่นี้แหละ มีกุ้ง ปูตัวเล็ก ปลาเล็ปลาน้อยอาศัยอยุ่ เพราะมีลำธารอยุ่ น้ำใสและเย็นมาก ถ้าใครไปแล้วกลัวไม่มีที่นอนเพราะเห็นเป็นป่าเขา ไม่ต้องกลัวที่นี้มีที่พักมีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ทั้งหมด 20 คน มีค่ายพักแรมไว้คอยบริการ 1 แห่ง สามารถพักได้ทั้งหมด 50 คน สถานที่กางเต้นท์ให้ 1 แห่ง สามารถพักได้ 100 คน เป็นไงละ ร้านอาหารก็มีเยอะ อร่อย ๆ ทั้งนั้น ไปแล้วเชื่อได้ว่าคุณจะต้องกับไปอีกแน่นอน






เป็นยังกันบ้างค่ะดูรู้แล้ว เป็นไงกันบ้างค่ะ มาเที่ยวอุทยานแห่งชาคิกันให้เยอะเลยนะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น