ชื่อเล่นชื่อนะห์
ศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฎ ยะลา ปีที่ 1
โปรแกรม วิชา วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม
โดยส่วนตัวแล้วดิฉันชอบ อะไรที่เกียวกับสิ่งแวดล้อม มากเลย เพราะเหตุผลนี้แหละ ที่ดิฉันเลยเลือกเรียน สาขานี้ และวันนี้ ดิฉันก็มีข้อมูล เล็กๆ น้อย ๆ ที่เกียวกับสิ่งแวดล้อมมาฝาก เป็นเรื่องเกียวกับสถานที่ ท่องเที่ยวนะค่ะ นั้นก็คือ
ประวัติความเป็นมาของอุยานแห่งชาติ น้ำตกทรายขาว
มีเนื้อที่ 68,750 ไร่ หรือ 110 ตารางกิโลเมตร
ทิศเหนือ จรด ตำบลป่าบอน,ตำบลทรายขาว และตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี |
ทิศใต้ จรด ตำบลตาชี อำเภอยะหา จังหวัดยะลา |
ทิศตะวันออก จรด ตำบลทุ่งพลา,ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ ตำบลลำพะเยา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา |
ทิศตะวันตก จรด ตำบลบ้านโหนด, ตำบลเปียน, ตำบลธารคีรี อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา, ตำบลช้างให้ตก อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี |
ประวัติ
นํ้าตกทรายขาวเดิมชาวบ้านเรียกว่า “นํ้าตกกระโถน “ มีต้นกำเนิดจากยอดเขาแม่นางจันทร์ บนเทือกเขาสันกาลาคีรี เป็นนํ้าตกที่ตกจากหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร ความยาวประมาณ 700 เมตรสองข้างลำธารมีต้นไม้ปกคลุมด้วยป่าดิบชื้นที่อุดมสมบรูณ์อันเป็นแหล่งกำเนิดของลำห้วยลำธารที่ไหลลงสู่แม่นํ้าเทพามีเนื้อที 750 ไร่ หรือ 1.15 ตารางกิโลเมตรจากการบอกเล่าของราษฏรที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นได้เล่าว่า พระครูศรีรัตนากร ( ท่านศรีแก้ว ) เจ้าอาวาสวัดทรายขาวเป็นผู้ค้นพบนํ้าตกแห่งนี้เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2475 หลังจากนั้นท่านได้ขอความร่วมมือให้ราษฏรสละแรงงานในการก่อสร้างศาลา บันไดเหล็กและจัดทำถนนขึ้นไปยังนํ้าตก เพื่อให้ประชาชนได้พักผ่อนและชมทิวทัศน์ความสวยงามของนํ้าตกแห่งนี้
หลังจากนั้น ยังได้ปรับปรุงและทำถนนจากตลาดนาประดู่ไปยังนํ้าตกทรายขาวเป็นถนนดิน เมื่อปี พ.ศ. 2479 ทำให้นํ้าตกแห่งนี้มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบันและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวและประชาชนมากยิ่งขึ้น
อุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ 3 แห่ง คือ ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดปัตตานี ในเขตอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาใหญ่ จังหวัดยะลา ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอยะหา จังหวัดยะลา และอุทยานแห่งชาติเขาสันกาลาคีรี ในเขตอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีเนื้อที่จากการสำรวจครั้งแรกประมาณ 110 ตารางกิโลเมตร หรือ 68,756 ไร่ เป็นอุทยานแห่งชาติเตรียมการประกาศจัดตั้งโดยได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีและเลขาธิการรัฐมนตรีแจ้งให้พิมพ์แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา เพื่อจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ลงพระปรมาภิไธยในเดือนมกราคม พ.ศ. 2541
ได้มีกลุ่มราษฎรในท้องที่ตำบล ลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ชุมนุมคัดค้านการประกาศจัดตั้งอุทยานแห่งชาตินํ้าตกทรายขาว เนื่องจากพื้นที่เตรียมการดั้งกล่าวบางส่วนทับซ้อนพื้นที่ทำกินของราษฎรและได้ทำการสำรวจรังวัดแนวเขตปรับปรุงใหม่โดยส่วนวิศวกรรมป่าไม้ กรมป่าไม้แล้ว ขณะนี้ข้อมูลดังกล่าวได้จัดส่งให้สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อเดือนมกราคม 2546 เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไปแล้วสภาพทั่วไป
พื้นที่บริเวณที่ทำการสำรวจใหม่ในครั้งนี้อยู่พื้นที่ป่าเทือกเขาสันกาลาคีรี ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเดิมทั้งสามแห่ง มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาและที่ราบบางส่วนหินเป็นหินแกรนิตและหินปูน ดินเป็นดินเหนียวปนทราย ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์ทรายสูงประกอบกับอยู่บนที่สูงจึงมีความชื้นมาก ฝนตกและอากาศเย็นสบายตลอดปีทำให้สภาพพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ พันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ไม้ยาง สยา กระบาก หลุมพอ ตะเคียนทอง เป็นต้น สัตว์ท้องถิ่น ได้แก่ เลียงผา หมูป่า เก้ง เม่น เป็นต้น
การเดินทาง
อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ประมาณ 1,120 กิโลเมตร หรือ โดยทางรถไฟประมาณ 1,009 กิโลเมตร ระยะทางจากจังหวัดปัตตานี ถึงอำเภอโคกโพธิ์ ระยะทาง 26 กิโลเมตร และระยะทางจากอำเภอโคกโพธิ์ ถึงสำนักงานอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ระยะทาง 7 กิโลเมตร สภาพถนนเป็นถนนลาดยางตลอดเส้นทาง สถานที่ติดต่ออุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว มีบ้านพัก 2 หลัง พักได้ทั้งหมด 20 คน มีค่ายพักแรมไว้คอยบริการ 1 แห่ง สามารถพักได้ทั้งหมด 50 คน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการกางเต้นท์พักแรม ทางอุทยานฯ ได้จัด สถานที่กางเต้นท์ให้ 1 แห่ง สามารถพักได้ 100 คน พร้อมทั้งร้านอาหาร และสวัสดิการต่างๆ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว ติดต่อได้ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี 94120 หรือติดต่อสอบถามได้ ที่งานบริการบ้านพัก ฝ่ายนันทนาการและสื่อความหมาย ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น